ชมเบื้องหลังทีมวิชวลเอฟเฟกขั้นเทพ เนื้อเรื่องอันลึกลับ จาก Prometheus ภาพยนต์ต้นกำเนิด Alien จาก Ridley Scott
เรารวบรวมข้อมูลแน่นปึ๊กของภาพยนต์เรื่องนี้มาให้ท่านได้เสพกันแล้ว

Prometheus พระเจ้าเอ๋ย ท่านเกลียดพวกเราจริงหรือ?

ภาคก่อนของ Alien, หนังไซไฟภาพสวย, หนังเข้าใจยากไม่รู้เรื่อง ไม่ว่าจะได้รับเรียกขานว่าอะไรก็ตาม แต่ Prometheus ก็เป็นภาพยนตร์ไซไฟที่มีความน่าประทับใจทั้งทางด้านงานภาพและเสียง พร้อมด้วยคำถามบานตะไทที่จะปล่อยให้ผู้ชมสนุกกับการค้นหาคำตอบที่มีอยู่ใน เรื่อง แต่รากฐานของ Prometheus นั้นกำเนิดขึ้นมาจากคำถามอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่ไม่ว่าจะนานแค่ไหนเราคงไม่ สามารถหาคำตอบที่แน่ชัดได้อยู่ดี

*คำเตือน เนื้อหาในนี้อาจเปิดเผยบางส่วนของเรื่อง*

เนื้อเรื่องคร่าว ๆ ของ Prometheus อยู่ที่ว่าคณะลูกเรือของยาน โพรมีธีอุส ได้เดินทางมายังดาวเคราะห์แห่งหนึ่งเพื่อค้นหา”ผู้สร้าง” (Engineer) ที่เชื่อว่าพวกเขาคือผู้ที่สร้างมนุษย์ขึ้นมา การเดินทางนี้เกิดขึ้นได้เพราะเอลิซาเบธ ซอว์ และ ชาร์ลีย์ ฮอโลเวย์ ค้นพบแผนภาพบนฝาผนังของซากอารยธรรมโบราณจากหลายมุมโลกที่ระบุถึงกลุ่ม ดาวกลุ่มหนึ่งเหมือนกันหมด ทั้งสองเองก็ได้รับความร่วมมือจากบริษัทเวย์แลนด์ในการออกค้นหาครั้งนี้ แต่ดูเหมือนการเดินทางมาที่นี่นั้นมีความลับที่พวกเขาไม่รู้และไม่ควรรู้ อยู่

ที่จริงแล้วพลอตเรื่องของเรื่องนี้เองก็ไม่ได้ล้ำสมัยหรือแปลกใหม่เท่าใด นัก แต่ที่น่าสนใจก็คือมันกลับไปเล่าเรื่องและตั้งคำถามในเรื่องที่ทุกคนเคย สงสัยแต่ลืมไปหมดแล้ว ในขณะที่ความเป็นไซไฟปัจจุปันเลือกที่จะก้าวไปข้างหน้า แต่ก็น้อยนักที่จะมีซักเรื่องหักกลับพูดถึงความใคร่รู้และต้นกำเนิดของทุก สิ่งอย่างนิ่มนวลและละเอียดละออ

REVIEW: Prometheus พระเจ้าเอ๋ย ท่านเกลียดพวกเราจริงหรือ

ดูเผิน ๆ แล้ว Prometheus ก็คงไม่ต่างจากหนังแนวนี้ทั่วไป ผู้ที่มาเยือนดาวนี้ต้องพบสิ่งเลวร้ายที่เกินจะจินตนาการแล้วก็จบชีวิตไปที ละคนสองคนเพราะความกระหายใคร่รู้ของตน แต่สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ไม่จบลงแค่การเป็นหนังแนวเดิม นอกจากงานสร้างที่วิจิตรสวยงามแล้ว ก็คงเป็นเพราะโครงเรื่อง คำถามที่ตั้งวางเอาไว้เป็นอย่างดีและซับซ้อนอย่างละเอียดละออชวนให้ผู้ชมค้น หา

และที่น่าสนใจก็คือไม่ใช่ความใคร่รู้ของมนุษย์เท่านั้นที่ก่อให้เกิดความหายนะแต่กลับรวมถึง”สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น”อย่าง เดวิด หุ่นยนต์ที่แทบไม่มีความต่างจากมนุษย์เองก็ก่อให้เกิดความพินาศไม่แพ้กัน กลายเป็นว่าเมื่อสิ่งใด ๆ ที่เราสร้างขึ้นมาและเมื่อมอบปัญญาให้ สุดท้ายแล้วก็สามารถก่อปัญหาที่ยากเกินจะควบคุมและที่เลวร้ายกว่านั้นคือ ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่มีใครทันสังเกตุด้วยซ้ำว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร

ที่จริง Prometheus พูดถึงหลายประเด็นที่มีความซับซ้อนใช่น้อยจนชวนต้องออกมาถกกันต่อนอกจอ เริ่มแรกเลยก็อย่างจุดประสงค์ของการเดินทางในเรื่องนี้ นั่นก็คือการค้นหาคำตอบที่ทุกคนอยากรู้ว่าเรามีต้นกำเนิดมาจากไหน เราทุกคนล้วนถูกสร้างมาทำไม เพราะฉะนั้นเราถึงดั้นด้นเดินทางมาถึงที่ที่ไกลแสนไกลเพื่อที่จะค้นหาคำตอบ ที่จริงแล้วการเดินทางในเรื่องนี้ก็คงเปรียบได้กับการค้นหาว่า “พระเจ้า” ที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ แต่เมื่อถึงเวลาแล้ว มันกลับน่าเจ็บปวดเหลือเกินที่เราดั้งด้นเดินทางมาไกลแสนไกลเพียงเพื่อที่จะ ได้รู้ว่าคนคนหนึ่งนั้นเกลียดเราเหลือเกิน

จนกลายเป็นเหมือนว่าหนังเรื่องนี้เองก็เล่นประเด็นของศาสนาอย่างชัดเจน เพราะมันประหนึ่งกับการบอกใบ้ว่าแท้ที่จริงพระเจ้าที่สร้างพวกเรานั้นแท้ที่ จริงเกลียดเราเหลือเกินหรือที่จริงแล้วพวกเรานั้นทำอะไรผิดพลาดโดยที่เราไม่ รู้ตัวหรือเปล่า

จากฉากแรกที่เดวิดแอบดูความฝันของเอลิซาเบธที่กำลังอยู่ในสภาวะจำศีลอยู่ มันเหมือนกับว่าเธอเองก็มีคำถามที่ตั้งอยู่ในใจตั้งแต่ก่อนมาที่นี่แล้ว พระเจ้าคืออะไร สวรรค์คืออะไร ถ้าหากพระองค์มีหนึ่งเดียวแต่ทำไมเราถึงแตกต่างกัน ทำไมเราถึงเลือกที่จะเชื่อต่างกัน ซึ่งเป็นคำถามที่ใช่ว่าจะสามารถหาข้อเท็จจริงมาชี้แจงได้อย่างชัดเจน

และในเมื่อบนโลกนั้นไม่สามารถให้คำตอบนี้กับเธอได้ เธอจึงออกเดินทางมายังที่ที่ไกลแสนไกลเพื่อที่จะหาคำตอบของคำถามที่อยู่ในใจ เอลิซาเบธได้กล่าวในเรื่องไว้ว่าโลกใบนั้นเป็นโลกที่ไม่มีความหมาย ไม่ใช่เพราะเธอชิงชังโลกแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะในเมื่อโลกใบนั้นไม่มีคำตอบให้กับเธอ ดาวดวงนี้ก็ทำได้เพียงแต่สร้างความเคลือบแคลงสงสัยเพิ่มเติม สิ่งที่ทำได้ต่อจากนี้ก็คงมีเพียงแค่การค้นหาคำตอบนั้นต่อไป

อาจจะเพราะความมุ่งมั่นในด้านนี้ของ เอลิซาเบธ ซอว์ นี่เอง ที่ทำให้เดวิดดูเหมือนจะให้ความสนใจเธอมากนัก ที่จริงแล้วเดวิดอาจจะให้ความสำคัญกับทุกสิ่งด้วยความใคร่รู้ เหมือนกับที่เขาถามชาร์ลีย์ว่า “คุณยอมทำขนาดไหนเพื่อที่จะรู้คำตอบ?”

เพราะเดวิดเองก็ไม่ได้มีบทบาทอยู่ที่แค่การเป็นหุ่นยนต์รับใช้ในยานนี้ เท่านั้น แต่ยังเป็นตัวละครที่เอาไว้ตั้งคำถามระหว่างมนุษย์ เครื่องจักร สิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตอย่างอื่นได้อย่างชัดเจน เพราะถึงแม้เดวิดจะเหมือนคนขนาดไหน แต่เขาก็ไม่ใช่คน ถึงแม้ว่าจะมีความสามารถเหลือล้ำ มีความรู้มากมายแต่เขาก็ไม่ใช่พระเจ้า เดวิดรู้มาตั้งแต่กำเนิดขึ้นมาแล้วว่าพระเจ้าของเขาคือใคร แต่ที่เขาสงสัยไม่แพ้กันก็คือว่า “ใครเป็นสิ่งที่สร้างผู้สร้างเขาขึ้นมาอีกที” และเพราะอะไร “ผู้สร้างมนุษย์” นั้นถึงได้เลือกสร้างสิ่งมีชีวิตที่มีความกระหายใคร่รู้ มีความโลภกิเลสตัณหา รวมถึงว่าเพราะอะไรผู้สร้างถึงสร้างเขาขึ้นมาให้เป็นสิ่งที่คล้ายมนุษย์ แต่ขาดความรู้สึกหรือจิตวิญญาน หรือว่าผู้สร้างนั้นจะสร้างมนุษย์ขึ้นมา เพียงเพราะว่าพวกเขาสามารถที่จะสร้างได้ก็เลยสร้างขึ้นมา ดังที่ชาร์ลีย์เคยตอบเดวิดเอาไว้จริง ๆ

หรือแท้ที่จริงแล้ว มันไม่เกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านั้นเลย มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณยึดมั่น สิ่งที่คุณมีชีวิตอยู่เพื่อตามหางมัน บางคนอาจจะเป็นเงินทองชื่อเสียง บางคนอาจจะเป็นถึงชีวิต โลก และมนุษยชาติ แต่สำหรับเอลิซาเบธนั้นเหมือกับว่าสิ่งที่เธอยึดมั่นมาตลอดนั่นก็คือพระเจ้า แต่พระเจ้าที่เธอได้พบเจอกลับทำลายสิ่งที่เธอเคยเชื่อทั้งหมดทั้งปวง พระเจ้าที่เคยตอบคำถามและสร้างคำถามให้เธอ กลับกลายเป็นสิ่งที่คิดจะทำลายล้างสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นมาโดยไม่ลังเล นอกจากนั้นเอง “สิ่งที่พระเจ้านำมา” อย่างวัตถุสีดำเองนั้นก็ทำลายจิตใจของเธออย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่เปลี่ยนชาร์ลีย์ คนรักของเธอให้เป็นปีศาจจนต้องโดนเผาไฟทั้งเป็น รวมถึงความฝันในการคลอดลูกของเธอก็โดนทำลายบดขยี้ด้วยการตั้งครรภ์สัตว์ ประหลาดที่เรียกได้เต็มปากว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่เลวร้าย แทนที่จะเป็นบุตรกำเนิดของมนุษย์ ลูกหลานของพระเข้าอย่างที่ควรจะเป็น และนั่นเองก็คงจะแตกต่างกับเดวิด ใช่ ถึงแม้ว่าเดวิดจะมีความสงสัยใคร่รู้เช่นเดียวกับมนุษย์คนอื่น แต่ความแตกต่างนั้นก็ต่างกันมากนัก เหมือนกับว่าเขาจะสงสัยในผลลัพธ์เพียงอย่างเดียว แต่ไม่ได้มีความสงสัยถึงที่มาของผลลัพธ์นั้นแต่อย่างใด

ถึงแม้จะตั้งคำถามพร้อมแฝงแนวคิดที่ฟังดูแล้วยุ่งยากชวนปวดหัว แต่ Prometheus เองก็ยังเป็นหนังที่มีความสนุกสนานในเสน่ห์ของความเป็นไซไฟ เฮอร์เรอร์ แอดเวนเจอร์ อยู่ หนังค่อย ๆ เปิดเผยเรื่องราวบนดาวเคราะห์แห่งนี้รวมถึงความลับที่ตัวละครซ่อนเอาไว้ อย่างนิ่มนวล แต่ความสยองขวัญน่าสะพรึงกลัวนี้เองก็ยังพร้อมเพรียงและน่ากดดันยิ่งขึ้น ท่ามกลางความเงียบงันของอวกาศ รวมถึงเสียงต่าง ๆ ในเรื่องก็มีความละเอียดละออสูง แม้จะไม่ฉูดฉาดเปรี้ยงปร้าง แต่มันเองก็มีเสน่ห์ในความนิ่งเงียบของมันอยู่

งานภาพของเรื่องนี้เองก็สวยงามและวิจิตรบรรจง และในระบบสามมิติถึงแม้จะไม่ได้เน้นความกระโดดนอกจออะไรนัก แต่ก็เป็นอีกเรื่องที่สมควรที่จะดูด้วยความคมชัด ความตื่นลึกของภาพในเรื่องนี้ก็ยิ่งขับความสวยงามในหนังให้มากขึ้น ตอบรับการออกแบบในเรื่องนี้เป็นอย่างดี

จนสามารถพูดได้ว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังอีกเรื่องที่น่าจดจำ ทั้งคุณภาพ แนวคิด รวมถึงการนำไปต่อยอด ทั้งการคิดเอาเองหรือค้นหาข้อมูลเพิ่มจากที่ค่ายหนังได้ปล่อยวางเอาไว้ในไว รัลต่าง ๆ เราไม่รู้ว่าคอไซไฟจะชอบหนังเรื่องนี้ไหม แต่ก็พูดได้ว่าหนังเรื่องนี้เองก็ไม่ได้เหมาะกับผู้ชมทุกคน แต่หากว่าคุณพร้อมยอมทำทุกอย่างเพื่อหาคำตอบที่คุณกำลังค้นหาอยู่ คุณก็น่าจะลองมัน

Prometheus, the long awaited science-fiction from Ridley Scott, has emerged as a spine-chilling reveal to his earlier Alien masterpiece. In Prometheus, a team of explorers discover a clue to the origins of life on Earth. While this production is quoted out as a prequel to Alien, and it may well be that this production stands out as a beacon to visual effects artists as yet another level to aspire to. With story references to ‘where did we all come from’, far more than the original, the creation of yawning vistas, damned creepy aliens in full screen, and the most violent, ‘beautific and horrific’ scenes, make this particular piece of eye-candy well worth seeing on the big screen in 3D.

On set, Ridley Scott would constantly refer back to the original Alien film. The approaches the original crew took were very simple in a practical way, and he still shoots in that same way. The moment in that first film when the first face-hugger wraps itself around John Hurt’s face, was captured with very short cuts and bursts of shots. Captured in a way that makes the whole sequence seamless.

The CGSociety interviewed the VFX Supervisors of each major studio working on the movie, as well as the Overall VFX Supervisor Richard Stammers. The challenge was to visualise some of the most intense VFX seen on the screen. This immense job was taken by teams from MPC, Weta Digital, Fuel VFX, as well as fx3x, Prologue, Luma Pictures, Rising Sun Pictures, Hammerhead, Lola Pictures and others.

-------------------

Video Clip

-------------------

Incredible Visual Effects of Prometheus

The Daily talk to MPC's Supervisor on the VFX of Prometheus

Prometheus Shaw on surface

Prometheus broll2

Fuel breakdown2

คลิปเบื้องหลัง 2 ฉากสำคัญใน Prometheus จาก WETA และ MPC

เพื่อนๆ ที่ยังคงนึกถึง Prometheus กันอยู่ และสนใจในเบื้องหลังงานสร้างของหนังล่ะก็ น่าจะชอบคลิปสองตัวที่เรานำมาฝากในวันนี้ครับ เพราะทาง The Daily ได้เปิดเผยคลิปเบื้องหลังฉาก 2 ฉากที่สร้างสรรค์โดยบริษัทโพสท์โปรดักชั่นส์ระดับโลกอย่าง WETA และ MPC

ฉากแรกนั้นเป็นฉากผู้สร้างบริจาคตัวเอง ซึ่งทาง WETA บอกว่าความยากคือจะต้องเล่าเรื่องการย่อยสลายของร่างกายไปจนถึงระดับ DNA และเกิด DNA ใหม่ของมนุษย์ขึ้นมาในเวลาสั้นๆ ในขณะที่อีกฉากเป็นตอนที่ยานโพรมีธีอุสลงจอด ก็จะเป็นความยากอีกแบบเพื่อให้ภาพออกมาสมจริงที่สุด

คลิป #1 เบื้องหลังฉาก ‘ผู้สร้าง’ อุทิศตนเพื่อสร้างมนุษย์ โดย WETA Digital

2 เบื้องหลังฉากยาน ‘โพรมีธีอุส’ ลงจอดบนดาวเคราะห์ LV-223 โดย MPC

Prometheus เปิดเผยจุดเริ่มต้นของเผ่าพันธ์มนุษย์

หนังไซไฟเขย่าขวัญเรื่อง Prometheus ของผู้กำกับ ริดลีย์ สก็อตต์ เริ่มต้นจากความลึกลับแบบที่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับหนังที่เล็ดรอดออกมาจากผู้กำกับ นักแสดง หรือทีมงาน ล้วนมีค่าอย่างกับทองคำขาว หนังได้รับคำชมมากมายว่าทำการตลาดได้ดี และไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องมากเกินไป แต่ช่วงหลังๆ มานี้ จากการที่ปล่อยคลิปต่างๆ ออกมา เราก็แทบจะรู้เรื่องราว (หวังว่าไม่) เกือบทั้งหมดของหนังเสียแล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าหนังน่าดูน้อยลงแต่อย่างใด เพียงแต่หนังแบบนี้ น่าจะคงความลึกลับไว้ให้ค้นหาในโรงหนังเสียจะดีกว่า

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการหาข้อมูล และฟุตเทจใหม่ๆ ของหนังให้มากที่สุด วันนี้เรามีมาฝาก ซึ่งเป็นคลิปเบื้องหลังตัวใหม่ ที่มีฟุตเทจใหม่ๆ รออยู่ รวมถึงผู้กำกับและนักแสดงนำมาเผยถึงไอเดียของหนังว่า Prometheus นั้น นำไอเดียที่ว่า จะเป็นอย่างไรหากมนุษยชาติออกเดินทางไปยังอวกาศอันไกลโพ้น เพื่อตามหาสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาที่เชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิดเผ่าพันธ์มนุษย์ บนโลก

Prometheus เล่าเรื่องราวของทีมนักสำรวจชาวโลกที่ออกเดิน ทางไปยังดาวเคราะห์ปริศนาที่พบใน “แผนที่ดวงดาว” ตามที่พบในแหล่งโบราณคดีทั่วโลกซึ่งไม่มีทางติดต่อสื่อสารกันได้ เมื่อไปถึงดาวเคราะห์ดวงนั้น ภารกิจที่พวกเขาต้องการจะค้นหาจุดกำเนิดของมนุษยชาติ อาจนำไปสู่จุดจบของพวกเราแทน